×

แข่งม้า & กีฬาม้า ทำไมเหมือนแยกจากกัน แม้มีม้าเหมือนกัน?

ด้วยกระแสกีฬาม้าในประเทศไทยได้กลับมาคึกคักมากยิ่งขึ้น มีอีเว้นท์วงการม้าให้ได้ชมกันอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะแข่งม้าที่วัดด้วยฝีเกือก และการสูบฉีดม้าโลหิดที่ทำให้ผู้ชมได้จับตาจนแทบไม่หายใจ หรือม้ากระโดด ม้าเดรสสาจ ม้าอีเว้นท์ติ้งที่คุณจะได้ชมฝีมือผู้ขี่อนาคตไกล และชมม้าหลากสีหลายพันธุ์ ซึ่งแน่นอนว่ากีฬาทุกแบบต่างมีจุดร่วมเหมือนกันทั้งม้า ทั้งผู้ขี่ การแข่งขัน การชิงรางวัล ก็สามารถเรียกเป็นกีฬาม้าได้อย่างเต็มปาก

แต่ความจริงกลับไม่เป็นอย่างที่คิด…

โดยกิจกรรมแข่งขันที่เกี่ยวข้องกับม้าถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่อย่างชัดเจน นั่นคือ ม้าแข่ง “Horse Racing” และกลุ่มม้ากระโดด เดรสสาจ โปโล อีเว้นท์ติ้ง วิ่งทางไกล หรือม้ายิมนาสติก (Vaulting) จะถูกเรียกว่า “Equestrian” หรือมีชื่อไทยว่า กีฬาขี่ม้านั่นเอง

แต่หลายคนก็สงสัยว่า แล้ว Horse Racing ที่มีจ๊อกกี้ขี่ม้า กลับไม่อยู่ในกลุ่ม Equestrian ตรงส่วนนี้มีการขยายรายละเอียดที่น่าสนใจว่า

คำนิยามของผู้ขี่ม้า

1 แข่งม้า & กีฬาม้า ทำไมเหมือนแยกจากกัน แม้มีม้าเหมือนกัน?

Equestrian : เป็นศาสตร์การแข่งขันของฝีมือผู้ขี่ม้าในการควบคุมม้าให้แสดงกิจกรรมตามที่กติกาการแข่งขันในแต่ละแบบเป็นผู้กำหนด โดยสามารถแสดงทักษะในการควบม้าได้อย่างงดงามไร้ความผิดพลาดให้มากที่สุด ไม่ว่าจะควบคุมให้กระโดดตามเส้นทางที่กำหนด หรือแม้แต่การควบคุมการเดินของม้าได้ราวกับม้าทำได้ด้วยตัวเอง รวมถึงการแต่งกาย และการจัดเตรียมบังเหียน อานม้าที่มีความพิถีพิถันสูง บ่งบอกถึงความใส่ใจ ความประณีต นอกจากนี้ ผู้ขี่ม้าจะเรียกว่า Rider

ม้าแข่ง: จะเรียกว่าจ๊อกกี้ (Jocky) ซึ่งจะมีหน้าที่เพียงแค่การควบคุมทิศทาง และความเร็ว โดยหัวใจสำคัญคือการทำให้ม้าวิ่งเร็วที่สุด เข้าโค้งดีที่สุด แถมจ็อกกี้ต้องมีน้ำหนักเบา โดยผู้ที่จะแสดงความสามารถจริง ๆ คือตัวม้าเป็นหลัก

และสิ่งที่แยกจากกันชัดเจนมากที่สุดคือ Equestrian เวลาชนะจะประกาศชื่อ Rider ก่อน ส่วนม้าแข่งเวลาชนะ จะเรียกชื่อม้าก่อน

ข้อจำกัดการเลือกม้า

2 แข่งม้า & กีฬาม้า ทำไมเหมือนแยกจากกัน แม้มีม้าเหมือนกัน?

Equestrian: ในการแข่งขันจะสามารถรองรับม้าได้หลายสายพันธุ์ ตามคลาสที่กำหนด ซึ่งส่วนมากกลุ่มเด็กก็จะได้แข่งขันม้าแคระ โตขึ้นมาหน่อยก็สามารถขี่ม้าในกลุ่ม Lighter Horse ครอบคลุมทั้งม้าเลือดร้อน และม้าเลือดอุ่น จึงทำให้วงการนี้มีผู้สนใจแข่งขันเป็นจำนวนมาก เพราะความอิสระในการเลือกม้า และผู้แข่งขันก็ครอบคลุมได้ทั้งเจ้าของคอก โรงเรียนสอนขี่ม้า หรือม้าเลี้ยงส่วนตัว เนื่องจากใช้ทุนไม่สูงเท่าม้าแข่ง และม้าโปโล

ม้าแข่ง: จะมีการกำหนดสายพันธุ์กลุ่มม้าเลือดร้อนเท่านั้น โดยเฉพาะม้า Thoroughbred ซึ่งในบางประเทศอาจจะกำหนดเฉพาะสายพันธุ์นี้เท่านั้น หรือการแข่งขันบางประเทศก็สามารถใช้ม้าสายพันธุ์อื่นในกลุ่มม้าเลือดร้อนแข่งได้ตามที่กฎกติกาของผู้จัดกำหนด เช่น Arab, Quarter Horse และโดยส่วนใหญ่ทีมม้าแข่งจะมีเฉพาะแค่เจ้าของคอกม้าเท่านั้น ซึ่งจะใช้ทุนในการดูแลและดำเนินการที่สูงกว่า

วัตถุประสงค์การจัดแข่งขัน

3 แข่งม้า & กีฬาม้า ทำไมเหมือนแยกจากกัน แม้มีม้าเหมือนกัน?

Equestrian: ถูกจัดขึ้นเพื่อแสดงทักษะของ Rider โดยเฉพาะ ซึ่งมีรางวัล ชื่อเสียงเป็นเดิมพัน และจะไม่มีการพนันเกี่ยวข้อง

ม้าแข่ง: เน้นเชิงพาณิชย์เป็นหลัก โดยเฉพาะการพนัน การซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ โดยการแข่งขันชนิดนี้ถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักในด้านวงการพนัน และศีลธรรม รวมถึงการบาดเจ็บ และการใช้ยาต้องห้าม แม้จะเป็นกีฬาที่ถูกกฎหมายก็ตาม

และสิ่งที่ตอกย้ำของการแยกสายที่ชัดเจนที่สุดคือ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ไม่อนุมัติการบรรจุม้าแข่งลงรายการแข่งขันโอลิมปิกอันเนื่องมาจากม้าแข่งเป็นกีฬาเชิงพาณิชย์ มีค่าใช้จ่ายสูง เช่นค่าดูแลสนาม ข้อจำกัดมากเกินไป และไม่ได้แสดงฝีมือการบังคับม้าอย่างเต็มที่ ส่วน Equestrian ได้รับการบรรจุลงแข่งขันในโอลิมปิกมาตั้งแต่ปี 1912 อีกทั้งวงการ Equestrian เป็นกลุ่มกีฬาของชนชั้นสูง เป็นหน้าเป็นตาในระหว่างประเทศ ส่งผลให้ Equestrian จะถูกโปรโมตในการแข่งขันในเวทีนานาชาติมากกว่า สังคมยอมรับมากกว่า

องค์กรกำกับ

4 แข่งม้า & กีฬาม้า ทำไมเหมือนแยกจากกัน แม้มีม้าเหมือนกัน?

Equestrian: อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ สหพันธ์กีฬาขี่ม้านานาชาติ (Fédération Équestre Internationale – FEI) ซึ่งจะเป็นผู้กำหนดกฎกติกาที่เหมาะสมในแต่ละรายการทั่วโลก

ม้าแข่ง: อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสมาคมแข่งม้าแต่ละประเทศ เช่น British Horseracing Authority, Japan Racing Association


สรุป

มาถึงตรงนี้ก็เห็นภาพชัดเจนแล้วว่าทำไมม้าแข่ง และ Equestrian ซึ่งมันมีหลายปัจจัยที่ทำให้ทั้งสองวงการแม้จะมีม้า และผู้ขี่เหมือนกัน แต่ด้วยรูปแบบการแข่งขัน การเข้าถึงของผู้แข่งขันกับสายพันธุ์ม้า วัตถุประสงค์การจัดแข่งขัน และการยอมรับในระดับสากล ทำให้การแข่งม้าทั้งสองแบบแยกจากกันอย่างชัดเจน แต่ไม่ว่าจะชมม้าแข่ง หรือกีฬา Equestrian ถ้าคุณเป็นคนชอบม้าแล้วมาชมร่วมกันทั้งสองแบบก็สนุกไปกับมันได้อย่างเต็มที่

Post Comment