“Call to the Post” สัญญาณเสียงเตรียมแข่งม้าที่แสนคุ้นเคย
หากท่านที่ได้ชมม้าแข่งแล้วได้ยินสัญญาณแตรหรือทรัมเป็ตนี้ ไม่ว่าจะมาจากลำโพง หรือมีผู้ดำเนินการเป่าแตรหรือทรัมเป็ต นั่นหมายความว่าม้าแข่ง และจ็อกกี้ก็จะเริ่มเข้าช่องเตรียมนัยถอยหลังการแข่งขันอันน่าตื่นเต้นที่ใกล้จะมาถึง ในขณะที่บางคนก็อาจจะรู้สึกถึงการเตรียมพร้อมสะกดสายตาที่ช่องปล่อยม้า บางคนอาจจะรู้สึกคุ้นเคยจากการ์ตูนเก่า หรือคลิปแข่งม้าต่างประเทศ ในวันนี้จะพามาศึกษาความเป็นมาของสัญญาณแตรที่หลาย ๆ คนยังไม่รู้จักกัน
ความเป็นมาของสัญญาณแตรก่อนเริ่มแข่งขัน
ในสมัยก่อนจะใช้เครื่องดนตรีที่เรียกว่า บิวเกิล (Bugle) ในการส่งสัญญาณ ซึ่งเครื่องดนตรีนี้ใช้เพียงแค่จังหวะและแรงลมในการเป่าเนื่องจากไม่มีระบบลิ้นปี่หรือวาล์ว โดยส่วนมากจะใช้ในการส่งสัญญาณ ที่เรียกว่า Bugle Call ซึ่งจะใช้ส่งสัญญาณในวงการทหารในวาระต่าง ๆ ไม่ว่าจะเตรียมความพร้อม การออกคำสั่ง หรือแม้แต่การแสดงความไว้อาลัยให้กับวีรชนในปัจจุบันมีการประยุกต์ใช้ทรัมเป็ต (trumpet) ด้วย

สำหรับในวงการแข่งม้า ได้มีการประยุกต์จากการส่งสัญญาณของทหารม้าที่เรียกกันว่า “Call to the Post” หรือในบางสนามก็อาจจะเรียกว่า “First Call” ซึ่งจะมีความยาวเพลงประมาณ 10 วินาที โดยในยุคแรก ๆ จะใช้ในการส่งสัญญาณแก่กองทัพทหาร และทหารม้าเพื่อเตรียมพร้อมเข้าประจำที่ ซึ่งสัญญาณแตรเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ทรงพลัง และชัดเจนในสนามรบหรือการฝึกซ้อมม้า โดยใช้แทนคำสั่งเสียงเพื่อให้ทหารม้าสามารถได้ยินอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในพื้นที่กลางแจ้ง อีกทั้งกีฬาม้าแข่งในยุคแรกเป็นกิจกรรมของชนชั้นสูง ที่ได้ถูกพัฒนามาสู่กีฬามหาชน การใช้สัญญาณแตรเหล่านี้ก็ถูกส่งต่อสำหรับประกาศการแข่งจนถึงปัจจุบัน ที่แม้จะมีเทคโนโลยีการอัดเสียง และการเปิดใช้งานผ่านลำโพงที่สะดวก แต่ก็ยังคงใช้สัญญาณแตร Call to the Post อย่างต่อเนื่อง
รวมถึงมีการใส่ในเพลงประกอบการ์ตูนฝรั่งยุคเก่าที่เกี่ยวข้องกับทหารม้า หรือม้าแข่งจนกลายเป็นภาพจำที่คุ้นเคยในปัจจุบัน หรือแม้แต่เพลงประกอบในUma Musume บางเพลงก็จะมีการใส่จังหวะสัญญาณแตรด้วย เพียงแต่จะมีการดัดแปลงปรับคีย์ หรือจำนวนโน๊ตให้เหมาะสมกับเพลงด้วย
ในบางรายการแข่งขัน โดยเฉพาะการแข่งขันรายการใหญ่ ๆ ก็จะมีผู้ที่ทำหน้าที่ให้สัญญาณแตรที่ออกมาเป่าเพลง Call to the Post ด้วยตัวเองที่สะท้อนถึงประเพณีการแข่งม้าอันยิ่งใหญ่ร่วมด้วย
ความหมายสัญญาณแตรในการแข่งม้า
ไม่ว่าจะสัญญาณแตร, Bugle Call และ Call to the Post การใช้แตรในการแข่งม้ามีรากฐานมาจาก ประเพณีทางทหาร ในยุคที่ทหารม้าเป็นส่วนสำคัญของกองทัพเพื่ออกคำสั่งให้เตรียมจัดแถว สู่การส่งสัญญาณสำหรับวงการม้าแข่ง ทั้งช่วงเวลาที่ม้าจะต้องออกจากคอกพักเพื่อเดินทางเข้าสู่สนามแข่ง (Walking to the Post) หรือช่วงนับเวลาถอยหลังให้ม้าเข้าไปที่คอกสตาร์ท ซึ่งผู้ที่ดูแลม้าและจ็อกกี้จะต้องควบม้าเข้าช่องให้ทันภายในเวลาที่กำหนด (ของไทยจะคุ้นเคยแบบหลังมากกว่า)
ที่สำคัญ การใช้สัญญาณแตร “Call to the Pos” แบบดั้งเดิมคือ การสร้างพิธีกรรม (Ceremony) ที่จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ยิ่งใหญ่ และเป็นทางการของการแข่งขัน เป็นสัญญาณที่ผู้ชมทุกคนทราบดีว่า “สิ่งสำคัญกำลังจะเกิดขึ้น” ถือเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีที่ขาดไม่ได้ในสนามแข่งม้า
สัญญาณเสียงกีฬาม้าในวงการอื่น ๆ
Dressage: เนื่องจากสนามแข่งประเภทนี้มีขนาดที่เล็ก และอยู่ในร่ม กรรมการจะใช้สัญญาณกระดิ่ง (ฺJudge belle) ในการส่งสัญญาณเริ่มการทดสอบการควบคุมม้า (Test) และเริ่มจับเวลา ซึ่งผู้เข้าแข่งขันจะต้องควบม้าเข้าเวทีที่จัดเตรียมไว้
Polo Pony: มีการใช้แตรลม หรือนกหวีดเป็นสัญญาณแจ้งเตือนสิ้นสุดชักเกอร์ (Chukker) หรือสัญญาณเปลี่ยนรอบการแข่งขัน โดย 1 ชักเกอร์ จะมีระยะเวลา 7 นาที 30 วินาที โดยจะมีการเป่าแตร หรือนกหวีดเป็นจังหวะสั้น ๆ ในช่วง 30 วินาทีสุดท้าย และช่วงจบรอบชักเกอร์
สำหรับวงการกีฬาม้ารายการอื่น ๆ จะใช้คำประกาศจากผู้บรรยาย หรือผู้ประกาศเพื่อให้ผู้ชม ผู้เข้าแข่งขันรับทราบ และยังช่วยลดความเสี่ยงการตื่นตกใจของม้าด้วย
ไม่ว่าคุณจะเรียกว่าสัญญาณแตร, Bugle Call และ Call to the Post ที่ถูกประกาศออกไปในระหว่างการชมม้าแข่ง สิ่งเหล่านี้มีมากกว่าเพียงแค่การส่งสัญญาณถึงการเตรียมความพร้อมในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดเท่านั้น แต่ยังสื่อถึงการสร้างสร้างบรรยากาศการแข่งม้าที่ยิ่งใหญ่ สง่างามสมเกียรติ ที่สืบทอดจากประเพณีของทหารม้าสู่กีฬาอันสูงศักดิ์ในอดีต สู่วงการแข่งม้าที่ครองใจผู้คนทุกยุคทุกสมัย และช่วยสร้างบรรยากาศการชมม้าที่ดูฮีกเหิม พร้อมตั้งสมาธิอย่างใจดใจจ่อก่อนที่ประตูคอกสตาร์ทจะเปิดออก



Post Comment