All-new Toyota Hilux Champ รถกระบะท้ายเรียบ เพื่อทุกโอกาสของทุกคนเป็นไปได้ AJ_Boy, 28/11/202328/11/2023 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น, บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด, บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเปิดตัว “ALL NEW HILUX CHAMP” รถกระบะมหาชนขวัญใจคนไทยรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมการสร้างประสบการณ์ในการซื้อแบบใหม่ให้แก่ลูกค้า ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นในการดัดแปลงตัวรถได้หลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานทั้งในเชิงธุรกิจ และการใช้งานส่วนบุคคล เพื่อให้ทุกโอกาสเป็นไปได้ มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จของโครงการนี้ว่า “นับตั้งแต่เปิดตัว IMV รุ่นแรกเมื่อปี พ.ศ. 2547 ได้มีการส่งมอบรถ IMV ให้กับลูกค้าชาวไทยแล้วจำนวนทั้งสิ้นกว่า 2.7 ล้านคัน โดยผู้ใช้จำนวนมากมีประสบการณ์ และความทรงจำที่ดีกับโครงการ IMV ลูกค้าชาวไทยแต่ละคนจึงมีเรื่องราวเป็นของตัวเองด้วยรถ IMV ที่ปรับแต่งตามไลฟ์สไตล์การใช้งานของตน ด้วยเหตุผลนี้รถ IMV จึงได้รับการหล่อหลอมให้เป็น “รถอันเป็นที่รัก” ที่ถักทอ “เรื่องราวต่างๆ ที่น่าจดจำ” เอาไว้อย่างมากมาย” “นอกจากประสบความสำเร็จด้วยการขายภายในประเทศแล้ว เราได้ส่งออกรถในโครงการ IMV กว่า 4 ล้านคัน ไปจำหน่ายยังประเทศอื่นๆ กว่า 120 ประเทศ ด้วยการใช้ชิ้นส่วนการผลิตภายในประเทศ โครงการ IMV จึงสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างงานให้แก่คนไทย ผมเชื่อว่าด้วยความไว้วางใจจากลูกค้าชาวไทยในโครงการ IMV และแบรนด์โตโยต้า พร้อมด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย จนโครงการ IMV ถูกขนานนามว่า “รถกระบะมหาชน” และได้สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนไทยกับโตโยต้า ผมจึงขอแสดงความขอบคุณต่อทุกท่าน” “นอกจากนี้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เรามีการตรวจสอบให้แน่ใจว่า รถกระบะ IMV 0 จะสามารถนำความสุข มาสู่คนไทยได้อย่างแท้จริง และนั่นคือเหตุผลที่ทีมงานพัฒนา IMV 0 ใช้เวลาหลายเดือนในการร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายในแต่ละภูมิภาค เพื่อสังเกตไลฟ์สไตล์ และความต้องการของผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นเจ้าของรถกระบะคันนี้” มร.อากิโอะ โตโยดะ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ได้กล่าวเมื่อเริ่มต้นโครงการ IMV 0 ว่า “โปรเจ็กต์ใหม่นี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนรุ่นใหม่ของ IMV เท่านั้น แต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้อนาคตของเราดีขึ้น และสดใสยิ่งขึ้นไปพร้อมกับคนไทย” ด้วยคำพูดนี้ทำให้การพัฒนา IMV 0 กลับสู่แนวคิดเดิมของ IMV อีกครั้ง และตั้งชื่อรถรุ่นนี้ว่า “HILUX CHAMP” เพื่อแสดงถึงเจตจำนงค์อันคืนสู่ความยอดเยี่ยมจากจุดกำเนิดของ “HILUX VIGO CHAMP” หลังจากที่ มร.อากิโอะ โตโยดะ ได้นำเสนอแนวคิดของโครงการ IMV 0 เมื่อปีที่ผ่านมา รถต้นแบบ IMV 0 ได้ถูกนำไปใช้เป็น Pace Car ในการแข่งขัน Endurance Race บุรีรัมย์ 25 ชั่วโมง และมีการเปิดตัวในอินโดนีเซีย ต่อด้วยฟิลิปปินส์ จากนั้นจึงนำไปแสดงในงาน Japan Mobility Show เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม เนื่องจากเป็นรถที่สามารถสร้างอนาคตให้กับโลกได้ และเพื่อเติมเต็มแนวคิด IMV 0 ให้สมบูรณ์ จึงได้มีการร่วมมือกับผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์ในประเทศจำนวนมาก ซึ่งได้เข้าร่วมงานเปิดตัว อย่างเป็นทางการในวันนี้ด้วย โดยตั้งเป้าที่จะพัฒนารถดัดแปลงต่างๆ ร่วมกัน ตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนารถยนต์จึงเป็นความท้าทายใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน “HILUX CHAMP จะเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าชาวไทย และเป็นรถยนต์ที่สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขให้กับคนไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ดังที่ทุกท่านทราบดีว่าตลาดรถกระบะในปีนี้มีแนวโน้มชะลอตัวตามสภาพเศรษฐกิจ เราจึงอยากกระตุ้นตลาดรถกระบะด้วย HILUX CHAMP ร่วมกับคนไทยอีกครั้ง ภายใต้การพัฒนาเพื่อแสดงความมุ่งมั่นของเรา เพื่อสื่อถึงความขอบคุณของเราแก่คนไทยทุกคนในฐานะรถกระบะมหาชน เราต้องการที่จะสร้างอนาคตที่ดีร่วมกันกับลูกค้าของเรา จึงอยากกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนไทยกับโตโยต้า โดยแสดงออกถึงความชื่นชมซึ่งกันและกัน” มร.ยามาชิตะ กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ ดร.จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวถึงการพัฒนา “ALL NEW HILUX CHAMP” ว่า “จากการลงพื้นที่สอบถามกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย IMV 0 ประมาณ 130 ราย และ ผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์หลักๆ 10 บริษัท เพื่อให้เข้าใจลักษณะการใช้งานรวมทั้งความต้องการลูกค้า เมื่อนำผลที่ได้มาเปรียบเทียบกับ HILUX Revo B-cab ซึ่งเป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จ และได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน สำหรับลูกค้าที่เคยใช้งาน HILUX Revo B-cab ส่วนใหญ่เน้นไปที่การบรรทุกหนัก พร้อมฟังก์ชั่นสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงขนาดของเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า เหมาะสมกับการใช้งานในระยะทางไกล ดังนั้น HILUX CHAMP ภายใต้โปรเจกต์ IMV 0 หรือ “Innovative International Multi-purpose Vehicle Zero” จึงได้รับการพัฒนา และออกแบบให้แตกต่าง โดยเน้นที่ความเข้าใจลักษณะการใช้งาน และความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก โดยจะเน้นเรื่องกระบะพื้นเรียบเหมาะกับการบรรทุกเบา และการดัดแปลงที่ง่ายกว่า เพื่อให้ตรงกับลักษณะการใช้งาน ธุรกิจของลูกค้า และการติดตั้ง Accessory เพิ่มเติมเพื่อใช้ในกิจกรรมวันว่างอีกด้วย” คุณลักษณะเด่นของ HILUX CHAMP Affordable Price ราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย ถูกกว่ารถกระบะตอนเดียวทั่วไป เหมาะสำหรับลูกค้าที่มีรายได้ระดับพื้นฐานเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ Business – Focused ครอบคลุมธุรกิจทุกรูปแบบ ด้วยทางเลือกรุ่นย่อยที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นฐานล้อที่มีทั้งช่วงสั้น “Short Wheel Base” และช่วงยาว “Long Wheel Base” 2 รูปแบบการบรรทุกทั้งกระบะท้ายเรียบ และไม่มีกระบะท้าย รวมไปถึงเครื่องยนต์ที่มีถึง 3 ขนาด และมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ ที่สำคัญกระบะท้ายยังเป็นพื้นเรียบเปิดได้ 3 ทาง และมีขนาดความจุมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด Compact Pick Up ขนาดกะทัดรัดคล่องตัว ด้วยรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเทียบเท่ารถยนต์นั่งขนาดเล็ก สามารถเข้า-ออก ตามซอกซอยได้อย่างคล่องตัว Durability ทนทาน เนื่องจากใช้พื้นฐานโครงสร้าง และเครื่องยนต์เดียวกับ HILUX REVO จึงไม่มีข้อกังขาเรื่องความทนทานอย่างแน่นอน Easy for Conversion ง่ายต่อการดัดแปลง จุดขายหลักที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถลดต้นทุน และเวลาการดัดแปลงรถ เนื่องจากโครงสร้างแบบ “Monozukuri” ออกแบบมาเพื่อให้ง่ายต่อผู้ประกอบการดัดแปลงรถ อาทิเช่น การเตรียมพื้นที่สำหรับเจาะไว้ตามจุดต่างๆ กันชนที่สามารถถอดแยกชิ้นเปลี่ยนได้ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายเรื่องการซ่อมบำรุง นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวถึงแผนการตลาดสำหรับรถรุ่นนี้ว่า จุดเด่นของ “HILUX CHAMP” โครงสร้างรถที่ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Monozukuri” หรือ “Easy for Conversion” จึงทำให้ “HILUX CHAMP เป็นโซลูชั่นในอุดมคติสำหรับภาคธุรกิจ หรือ Start up นอกจากนี้ยังสามารถนำไปตกแต่ง หรือต่อเติมให้เข้ากับกิจกรรมสันทนาการ ได้หลากหลายไลฟ์สไตล์ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สนองความต้องการของลูกค้าชาวไทยให้ได้มากที่สุด ทีมวิศวกรของเราได้ร่วมทำงาน และรับฟังมุมมองเชิงลึกจากผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ รวมไปถึงปัญหาที่ประสบในปัจจุบัน เพื่อนำมาแก้ไขใน HILUX CHAMP และพัฒนาเป็นโครงสร้างการดัดแปลงที่ง่าย เพื่อให้ผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์สามารถดัดแปลง HILUX CHAMP ในระยะเวลาที่สั้น และต้นทุนที่ต่ำลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อลูกค้าผู้ใช้งาน ที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นในที่สุด ผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์ 8 แห่ง ที่อยู่ในโครงการนำร่องของการดัดแปลงรถ HILUX CHAMP CARRYBOY รถบ้านเคลื่อนที่ (MOTORHOME) “ออกทริปครอบครัว ไปเที่ยวที่ไหนก็สะดวกสบาย เหมือนบ้านเคลื่อนที่” รถติดตั้งตู้ขนส่งสินค้า (DRY BOX) “เพื่อการบรรทุกสินค้าอย่างมีคุณภาพ เปลี่ยนเป็นกระบะตู้แห้งได้ไม่ยาก” MPC COOL รถติดตั้งตู้ขนส่งสินค้าแบบเก็บอุณหภูมิพร้อมเครื่องทำความเย็น (COOL BOX) “ขนส่งสินค้าที่ต้องรักษาในอุณหภูมิต่ำพิเศษ” CUBERYDER รถขายของเคลื่อนที่แบบน็อกดาวน์ (KNOCKDOWN MOBILE BUSINESS TRUCK) “ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับธุรกิจแบบสำเร็จรูป ลดระยะเวลาติดตั้ง” MKC รถขายของเคลื่อนที่แบบ 2 ด้าน (2 SIDES MOBILE BUSINESS TRUCK) “ออกร้านได้ทุกที่ สะดวกสบายในการเปิดร้านค้าอเนกประสงค์” TADANO รถเครนชนิดเคลื่อนที่ (MOBILE CRANE) “กระทัดรัด คล่องตัว สำหรับธุรกิจขนส่ง และงานช่างเคลื่อนที่” TJM รถแคมป์ปิ้ง (CAMPING CAR) “บุกป่า ฝ่าฝน สายออกแคมป์ คู่หูของนักผจญภัย ให้คุณมั่นใจได้ทุกเส้นทาง” ECU SHOP และ PSP SHOP รถแต่งเพื่อความสวยงาม (STREET PACKAGE) “แต่งซิ่ง เอาใจสายสตรีท เสริมความดุดันลุคจัดจ้าน เติมสีสันให้ชีวิตมีแต่คำว่าเร้าใจ” นอกจากนั้น ยังจัดทำเป็นคู่มือการดัดแปลงรถ และส่งไปยังผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์ทั่วประเทศเพื่อให้ศึกษาถึง HILUX CHAMP ล่วงหน้า ทำให้เราแน่ใจว่าทั้งกระบวนการ และอุปกรณ์ดัดแปลงที่ผู้ประกอบการฯ จะมีความพร้อมสำหรับการเปิดตัวของ HILUX CHAMP โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์มากกว่า 100 แห่งเริ่มเตรียมความพร้อมแล้ว ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ALL-NEW HILUX CHAMP กระบะท้ายเรียบแบบเปิดได้ 3 ทาง เพิ่มความสามารถในการบรรทุก สะดวก และทนทาน พร้อมโครงสร้างที่เอื้อต่อการดัดแปลง ช่วยลดต้นทุน ลดเวลา ลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการ ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ทั้งในเชิงพาณิชย์ และการใช้งานส่วนตัว ให้คุณเป็นอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ ไปไหนก็ได้กับ HILUX CHAMP ที่ทำให้ทุกโอกาสของคุณเป็นไปได้ “รองรับทุกโอกาสการใช้งานกับช่วงล้อที่ต่างกัน 2 ขนาด” กับทางเลือกแบบช่วงล้อสั้น 2,750 มม. ทำให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.9 เมตร หรือช่วงล้อยาว 3,085 มม. สามารถบรรทุกตะกร้าขนาดมาตรฐานได้ถึง16 ใบ มาพร้อมกระบะท้ายเรียบแบบไม่มีซุ้มล้อ อีกทั้งยังสามารถเปิดได้ 3 ทางเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน สมรรถนะการขับขี่ แรงเต็มพลังกับเครื่องยนต์ 3 ทางเลือก ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร กำลังสูงสุด 166 แรงม้า (122 กิโลวัตต์) ที่ 5,200 รอบ / นาที เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 139 แรงม้า (102 กิโลวัตต์) ที่ 5,600 รอบ / นาที เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (110 กิโลวัตต์) ที่ 3,400 รอบ / นาที เหนือกว่ากับระบบเกียร์ที่เลือกได้ทั้ง เกียร์ธรรมดา 5 สปีด ตอบสนองฉับไว เร่งจังหวะได้ดั่งใจ เพิ่มความมั่นใจในทุกการขับ และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift แรงเต็มสมรรถนะ นุ่มนวล แม่นยำในทุกจังหวะ ขับสบายทุกเส้นทาง รวมถึงโครงสร้างแชสซีส์สุดแกร่ง พื้นที่ตัดขวางใหญ่ ขึ้นรูปจากเหล็กกล้าแข็งแรงสูง (High Strength Steel) ทรงตัวมั่นคงทั้งทางตรง และเข้าโค้งพร้อมลุยทุกเส้นทาง การออกแบบ และอุปกรณ์ภายนอก แข็งแกร่งทุกมิติ โดดเด่นทุกมุมมอง กับรูปทรงเหลี่ยม Retro Polygon ที่แสดงออกถึงความทรงพลัง และยังผสานเข้ากับหลักการออกแบบทางวิศวกรรม เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน รูปทรงห้องโดยสารแบบ Polygon เพิ่มความแข็งแรงให้กับห้องโดยสารพร้อมการเข้า-ออก ที่สะดวกยิ่งขึ้น กันชนหน้าดีไซน์แบบแยกประกอบ 3 ชิ้น ง่ายต่อการปรับเปลี่ยนและตกแต่ง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงพร้อมดีไซน์มุมกันชนแบบ Swept-back Angle เพื่อการขับเข้า-ออก พื้นที่แคบได้สะดวก โครงสร้างที่ถูกออกแบบเพื่อการดัดแปลงได้ดั่งใจ ด้วยการออกแบบตามแนวคิด MONOZUKURI ดีไซน์โครงสร้างที่พร้อมรองรับการประกอบ และการดัดแปลงเพิ่มเติมจากอู่ต่อตัวถัง และสำนักแต่งรถ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายและสร้างโอกาสทั้งในเชิงพาณิชย์และการใช้งานส่วนตัว 1.เพื่อการติดตั้งอุปกรณ์เสริม Pre-hole บริเวณรางหลังคา และพื้นกระบะ โครงสร้างแชสซีส์แบบเรียบ ท่อน้ำมันเชื้อเพลิงแบบโค้งงอได้ 2.เพื่อการใช้งาน บันไดข้างสำหรับขึ้นกระบะแบบ Built-in พื้นที่กระบะแบบท้ายเรียบ ตะขอเกี่ยวสัมภาระด้านข้าง 3.ฐานแต่งตั้งอุปกรณ์ ฐานติดตั้งโครงหลังคา ฐานติดตั้งบริเวณพื้นที่ด้านหลังห้องโดยสาร ฐานติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งประตู ฐานติดตั้งตะขอยึดด้านข้าง ฐานติดตั้งอุปกรณ์เสริม โครงสร้างกระบะท้ายเรียบ พัฒนาและปรับแต่งตำแหน่ง Upper Absorber ให้อยู่ใต้โครงสร้างจุดต่อเติม เพื่อเพิ่มพื้นที่การบรรทุกได้มากขึ้น การออกแบบ และอุปกรณ์ภายใน ห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายด้วยการออกแบบให้มีพื้นที่เหนือศีรษะสูงขึ้น ปรับการวางตำแหน่งเสา A ให้ชันขึ้น เพื่อทัศนวิสัยที่เปิดกว้าง และลดจุดบอดขณะเลี้ยว สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยห้องโดยสารโทนสีดำ-ส้ม พร้อมเลือกใช้วัสดุที่ทนทานง่ายต่อการดูแลรักษา ด้วยเบาะนั่งแถวยาวแบ่งส่วน 60 : 40 ในรุ่นเกียร์ธรรมดา และ เบาะนั่งแบบแยกในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ โดยเบาะนั่งสามารถปรับเอนได้เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ ระบบ Fleet Telematics Service (FTS) by TOYOTA “ระบบบริหารยานพาหนะ และการขนส่งครบวงจรด้วย Built-in เทคโนโลยีจากโตโยต้า” ช่วยคุณบริหารรถยนต์ ได้ง่าย และเต็มประสิทธิภาพ ให้การจัดการ และการดำเนินธุรกิจของคุณมีประสิทธิภาพทั้งด้านเวลา ต้นทุน และคุณภาพสินค้า โดยพร้อมทดลองใช้งานฟรี 3 เดือน โดยมี Function การให้บริการด้วยกันดังนี้ หน้าควบคุม ให้ทราบถึงภาพรวมการใช้งานรถยนต์ ตรวจพิกัดรถ ติดตามตำแหน่งและสถานะรถยนต์แบบ Real time ดูย้อนหลัง ค้นหาประวัติและเส้นทางการเดินรถ รายงาน เพื่อใช้ประเมินผลและปรับปรุงการใช้งานรถยนต์ รายงานการซ่อมบำรุง เตือนให้ซ่อมบำรุงรถยนต์อย่างเหมาะสมเพื่อยืดอายุการใช้งาน และวางแผนการบำรุงรักษารถยนต์ได้อย่างแม่นยำ อุปกรณ์ความปลอดภัย มั่นใจเต็มร้อย พร้อมปกป้องทุกเส้นทางด้วย ระบบป้องกันล้อล็อก AB (Anti-lock Brake System) ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake – force Distribution) ถุงลมเสริมความปลอดภัย 2 ตำแหน่ง โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA ช่วยดูดซับแรงกระแทกรอบด้านได้ดีเยี่ยม และเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด พร้อมระบบดึงรั้งกลับ และผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ อุปกรณ์ตกแต่งแท้โตโยต้า เปิดโอกาสให้ทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยความหลากหลายของอุปกรณ์ตกแต่งมากกว่า 70 รายการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย เช่น เครื่องเล่นวิทยุพร้อมจอ ชุดตกแต่ง Smart&Cool แพ็คเกจ ประกอบด้วย ชุดตกแต่งกันชนหน้า ชุดตกแต่งมุมกันชนหน้า คิ้วตกแต่งด้านข้าง และโลโก้ TOYOTA บนกระจังหน้าสีแดง นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เช่น พื้นปูกระบะ แร็คหลังคา ที่วางแก้ว และอุปกรณ์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ เช่น กล้องบันทึกภาพด้านหน้า สัญญาณกะระยะถอยหลัง และกล้องมองหลัง โดยอุปกรณ์ตกแต่งแท้โตโยต้า ให้การรับประกันสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม. “ประสบการณ์ใหม่ในการบริหารธุรกิจ ด้วยประสิทธิภาพ 3 ด้าน” ประหยัดเวลา ไม่เสียเวลาติดตั้งอุปกรณ์ วางแผนงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและบริหารทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดต้นทุน ควบคุมการใช้เชื้อเพลิง โดยควบคุม และติดตามพฤติกรรมการขับขี่ ติดตั้งอุปกรณ์จากโรงงานไม่ต้องเสียค่าติดตั้งอุปกรณ์ ยกระดับคุณภาพสินค้า และบริการ ควบคุมพฤติกรรมการขับขี่ได้อย่างปลอดภัย การรับประกันมาตรฐานโตโยต้าเท่าตัวรถ และสามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการโตโยต้า ทั่วประเทศ ข้อมูลถูกต้อง แม่นยำ ดึงข้อมูลตรงจากตัวรถมาประมวลผลพร้อมวิเคราะห์ทันที ราคาในแต่ละรุ่น (รวม VAT และเครื่องปรับอากาศ) 2.4 ดีเซล เกียร์อัตโนมัติ ช่วงล้อสั้น รุ่นตกแต่งพิเศษ 577,000 บาท 2.4 ดีเซล เกียร์อัตโนมัติ ช่วงล้อยาว 562,000 บาท 2.4 ดีเซล เกียร์อัตโนมัติ แบบไม่มีกระบะ ช่วงล้อสั้น 536,000 บาท 2.4 ดีเซล เกียร์ธรรมดา ช่วงล้อยาว 527,000 บาท 2.4 ดีเซล เกียร์ธรรมดา แบบไม่มีกระบะ ช่วงล้อยาว 499,000 บาท 2.7 เบนซิน เกียร์อัตโนมัติ ช่วงล้อสั้น 499,000 บาท 2.7 เบนซิน เกียร์อัตโนมัติ แบบไม่มีกระบะ ช่วงล้อสั้น 487,000 บาท 2.0 เบนซิน เกียร์ธรรมดา ช่วงล้อสั้น 459,000บาท โดยมี 4 สี ให้เลือกดังนี้ SUPER WHITE 2 OFF WHITE DARK GREY METALLIC* SILVER METALLIC* สำหรับรุ่น 2.4 ดีเซล เกียร์อัตโนมัติ ช่วงล้อสั้น รุ่นตกแต่งพิเศษ มีเฉพาะสี SUPER WHITE2, DARK GREY METALLIC* และ SILVER METALLIC* สำหรับรุ่น 2.7 เบนซิน เกียร์อัตโนมัติ ช่วงล้อสั้น และ 2.0 เบนซิน เกียร์ธรรมดา ช่วงล้อสั้น มีเฉพาะสี OFF WHITE, DARK GREY METALLIC* และ SILVER METALLIC* สำหรับรุ่น 2.4 ดีเซล เกียร์อัตโนมัติ ช่วงล้อยาว และ 2.4 ดีเซล เกียร์ธรรมดา ช่วงล้อยาว มีเฉพาะสี OFF WHITE, DARK GREY METALLIC* และ SILVER METALLIC* สำหรับรุ่น 2.4 ดีเซล เกียร์ธรรมดา แบบไม่มีกระบะ ช่วงล้อยาว มีเฉพาะสี OFF WHITE และ SILVER METALLIC* สำหรับรุ่น 2.7 เบนซิน เกียร์อัตโนมัติ แบบไม่มีกระบะ ช่วงล้อสั้น และ 2.4 ดีเซล เกียร์อัตโนมัติ แบบไม่มีกระบะ ช่วงล้อสั้น มีเฉพาะสี SUPER WHITE2 , DARK GREY METALLIC และ SILVER METALLIC* หมายเหตุ : สำหรับสี Dark Grey Metallic , Silver Metallic ราคาจะเพิ่ม 7,000 บาท จากราคาด้านบน สัมผัสประสบการณ์ใหม่แห่งการปรับแต่งที่หลากหลายไม่รู้จบ เพื่อทุกโอกาสเป็นไปได้กับ “ALL NEW HILUX CHAMP“ รถกระบะมหาชนขวัญใจคนไทยรุ่นใหม่ล่าสุดจากโตโยต้าได้แล้ววันนี้ ที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ และ ในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023 ตั้งแต่ วันที่ 30 พฤศจิกายน -11 ธันวาคม ศกนี้ และพบกับกิจกรรมการเปิดตัวเต็มรูปแบบที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่าย ในวันที่ 24 มกราคม 2567 พบกับเทศกาล HILUX กิจกรรมไฮไลท์ ที่จะนำ “ALL NEW HILUX CHAMP” พร้อมรถดัดแปลงไปแสดงที่จังหวัดต่างๆ รวมถึงโครงการประกวดไอเดียการปรับแต่งรถ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงไอเดียในการปรับแต่งที่หลากหลาย ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.toyota.co.th/ Facebook: Toyota Motor Thailand LINE ID: @ToyotaThailand TikTok: @ToyotaMotorTH X(Twitter): @ToyotaMotorTH Instagram: @toyotamotorthailandofficia auto car ToyotaToyota Hilux Champ